วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558
















ความเป็นมาและความสำคัญ
       

      สมัยก่อนปู่ ย่า ตา ยาย ได้ทำการจักสานของใช้ในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิต โดยนำวัสดุ
จากวัสดุธรรมชาติมาใช้ในการจักสาน เช่นไม้ไผ่ หญ้าแฝก กก ผือ และอีกหลายๆอย่าง จนก่อให้เกิดงาน
อาชีพสืบต่อกันมาเป็นภูมิปัญญาสู่ลูกหลานแต่วัสดุอุปกรณ์จากธรรมชาติเหล่านั้นไม่คงทนเท่าที่ควร
      
       ปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทำให้มีการดัดแปลงจากอุปกรณ์เหล่านี้ไปเป็นเส้นพลาสติกแทน โดยได้นำเอาเส้นพลาสติกที่มีลักษณะคล้ายดอกแต่มีสีสันลวดลายที่สวยงามและคงทนมาทำการสาน


ตะกร้า




ตั้งใจกันสานตะกร้ามาก





ขั้นตอนการทำ

1. ตัดเส้นพลาสติกยาวกว่ากระเป๋แบบ 20 - 30 ซม. จำนวนความกว้าง 11 เส้น จำนวนความยาว 23 เส้น






2. นำเส้นพลาสติกที่ตัดไว้โดยนำ 11 เส้นมาเรียงไว้(ความกว้างของกระเป๋า)




                           


3. นำเส้นพลาสติกที่เหลือ 23 เส้น นำมาสานทีละเส้น



4. เมื่อนำมาสานครบทั้ง 23 เส้นแล้ว หลังจากนั้นจัดเส้นพลาสติกให้แน่นไม่ให้มีช่องว่าง








5. เมื่อจัดเส้นพลาสติกแล้วให้นำเส้นพลาสติกทุกด้านมาจัดกัยลายโดยขัดเว้นเส้น





6. ขึ้นลายข้างกระเป๋า โดยการสานจะใช้ 3 เส้น ในการสาน 1 รอบ




7. เมื่อสานเสร็จแล้วให้บีบตามขอบของกระเป๋าเพื่อทำให้เป็นทรง




8. ใส่หูถือกระเป๋าก็จะเป็นขั้นตอนสุดท้าย











อุปกรณ์ในการทำกระเป๋า

  1. เส้นพลาสติก

  2. กรรไกร

  3. สายวัด

เริ่มต้นจากการวัดพลาสติก
                                            ส่วนของกระเป๋า - เส้นตั้งยาว 85 ซม.  15 เส้น
                                                                       
                                                                       - เส้นนอนยาว 90 ซม.  9 เส้น

                                                                       - เส้นสานยาว 100 ซม.  15 เส้น

                                                                       - เส้นเก็บขอบปากยาว 150 ซม. 1 เส้น

                                            หูกระเป๋า              - เส้นกลางยาว 100 ซม. 1 เส้น

                                                                        - เส้นไขว้ยาว 120 ซม. 2 เส้น

วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีการทำไม้กวาดทางมะพร้าว

1. นำก้านมะพร้าวมาเหลาเอาใบออก ผึ่งแดดไว้ 2 วัน
2. นำก้านมะพร้าวที่แห้งดีแล้วมามัดเป็นกำๆละ 30 อัน จำนวน 12 มัด
3. นำมาถักเรียงกันเป็นรูปเฝือก มัดด้วยเชือกถักมาประกอบกับด้ามไม้ที่เตรียมไว้มัดด้วยลวดตอกตะปูให้แน่นกันเลื่อนขึ้น-ลงของไม้กวาด
4. แบ่งถักด้วยเชือกถักเป็น 24 กำ (จากเดิม12 กำ)ดึงให้แน่น
5. แซมด้วยก้านมะพร้าวอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ไม้กวาดแน่นหนาขึ้น





วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

วัสดุ-อุปกรณ์


1. ก้านมะพร้าวด้ามไม้ไผ่ หรือไม้รวก หรือไม้เนื้อแข็ง


ก้านมะพร้าว


เพิ่มคำอธิบายภาพ

2.เชือกถัก

3.ค้อน ตะปู ลวด คีม


ลวด
คีม


4.สำหรับการเลือกก้านมะพร้าว ควรใช้ก้านมะพร้าวสวน ไม่นิยมใช้ก้านมะพร้าวหอมเพราะก้านแกนสั้น ไม่เหมาะแก่การทำไม้กวาดทางมะพร้าว

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

3. ไม้กวาดใยมะพร้าว ทำจากลูกมะพร้าว เอามาแต่เฉพาะส่วนกาบจะมีส่วนประกอบเป็นเส้นใยเหนียววิธีการทำต้องนำกาบมะพร้าวไปแช่น้ำ และเอาส่วนที่เป็นใยออกมาแล้วจึงนำใยได้ไปจัดเรียงให้อยู่ในลักษณะที่เป็นแผ่นที่สามารถใช้ในงานได้ แล้วจึงผูกด้วยหวายหรือเชือกกับด้ามให้แห้ง




ไม้กวาดใยมะพร้าว







4. ไม้กวากพลาสติก ไม้กวาดชนิดนี้มีความคงทนมากกว่าไม้กวาดที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ และยังสามารถทำให้มีสีสันสวยงามได้ ตัวมีทั้งแบบพลาสติก หรือแบบที่เป็นโลหะ เช่นอลูมิเนียมเนื่องไม้กวาดทำจากพลาสติก จึงสามารถใช้กับพื้นที่เปียกได้ หรือสามารถทำความสะอาดได้




ไม้กวาดพลาสติก






วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558


 ไม้กวาดมีหลายชนิด แบ่งตามชนิดของขนไม้กวาดที่เรารู้จักกันดี
         
1.ไม้กวาดดอกหญ้า เป็นไม้กวาดที่นิยมกันมาก ลักษณะของไม้กวาดเป็นด้าม มีทั้งด้ามยาวและด้ามสั้นตรงปลายของด้ามไม้กวาดจะมีปลายก้านของดอกหญ้ามัดรวมกันอยู่ ตรงปลายของขนดอกหญ้าจะถูกจัดให้แผ่ออกอยู่ในลักษณะแบนเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการกวาด


ไม้กวาดดอกหญ้า






2. ไม้กวาดทางมะพร้าว ขนของไม้กวาดจะทำจากใบมะพร้าว เอาเฉพาะก้านที่อยู่ตรงกลางใบมาตากแห้งจะได้มีก้านไม้ที่มีลักษณะแข็งและยืดหยุ่นแต่ไม่มากนำเอาก้านมารวมกันและผูกติดกับด้ามก็จะได้ไม้กวาดทางมะพร้าวมาใช้งาน








ไม้กวาดทางมะพร้าว










วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

 





    การทำไม้กวาดทางมะพร้าว คือ ภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่คนไทยรู้จักคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นจนสำเร็จและสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ต้นมะพร้าวเพียง1 ต้น สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้หลายอย่าง กะลามะพร้าวนำมาประดิษฐ์สิ่ของได้เช่นกัน อาทิ เครื่องประดับ เช่นสร้อยคอ สร้อยแขน เข็มขัด ของใช้ เช่น กะลาก๊อบแก๊บ เปลือกของลูกมะพร้าวสามารถนำมาปลูกต้นไม้ได้ เช่น ปลูกต้นกล้วยไม้ ยอดของมะพร้าวสามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่นแกงไก่ใส่ยอดมะพร้าวอ่อน เป็นต้น ใบมะพร้าวก็สามารถนำมาสานปลาตะเพียน ตั๊กแตน และเอามาห่อขนมได้ส่วนทางมะพร้าวสามารถนำมาทำไม้กวาดปัดหยากไหย้ ไม้กลัดห่อขนมหรือของต่างๆ

ก้านมะพร้าว

ไม้กวาดทางมะพร้าว

เพิ่มคำอธิบายภาพ

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีการทอเสื่อ


คุณป้ากำลังทอเสื่อ
  เลือกขนาดของฟืมให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ นำฟืมไปตั้งในกี่ที่จะทอตั้งให้ได้ระดับระยะห่างจากเหล็กตีนเสื่อประมาณ 2 ฟุตนำเชือกไนล่อนมาแขวนตามริมฟืมซี่แรก จะเริ่มจากด้านหรือด้านขวาก็ได้แล้วแต่ถนัด การร้อยเชือกใช้คน 2 คน คนหนึ่งนั่งอยู่ที่หัวเสื่อคอยมัดเชือกที่ขึงให้ตึง และแน่น อีกคนนั่งอยู่ตีนเสื่อคอยสอดเชือกเข้ากับเหล็กตีนเสื่อใช้เชือกสอดเข้าไปในรูฟืมที่เจาะไว้เป็นสองแถว แล้วตึงปลายเชือกไปเกาะติดกับลิ่มที่เราตอกงอไว้ติดกับไม้อีกท่อนหนึ่งแล้วยึดกันให้แน่น เชือกดึงให้ยาวตามความยาวของเสื่อ
    ในการทอเสื่อจะใช้คน 2 คน คนแรกเป็นคนทอ อีกคนหนึ่งเป็นคนคอยสอดเส้นกก กกที่นำมาทอจะซุบน้ำเพื่อให้กกนิ่มและทอได้แน่น การทอ คนทอจะต้องคว่ำฟืมเพื่อให้มีช่องว่างสำหรับสอดกก คนสอดจะสอดเส้นกกโดยแนบเส้นหัวของเส้นกกกับไม้สอด สอดไปตามช่องระหว่างเชือกที่แยกออกจากกันขณะที่คว่ำฟืม พอสอดไปสุดริมเชือกอีกข้างดึงไม้สอดกลับคืนคงเหลือแต่เส้นกกคนทอก็กระทบฟืมเข้าหาตัวแล้วคนทอก็หงายฟืม คนสอดก็ใช้ส่วนปรายของเส้นกกแนบกับไม้สอด สอดกกเข้าไปอีก คนทอก็กระตุกฟืมเข้าหาตัว แล้วเม้นเสื่อทางด้านซ้ายมือ การเม้นเสื่อคือการใช้กกม้วนงอลงแล้วสอดพับเชือกขัดไว้ให้แน่น ต่อไปคว่ำฟืม  เม้นเสื่อทางด้านขวามือ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ขนาดตามที่ต้องการ ในการทอเสื่อเพื่อเป็นการป้องกันเสื่อรุ่ย นำเสื่อที่ทอเสร็จแล้วผึ่งแดดไว้จนแห้งสนิทจึงพับเก็บไว้
   

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

อุปกรณ์การทอเสื่อ


1. กก มีลักษณะลำต้นกลมๆ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าไหล
กกที่ใช้สำหรับทอเสื่อ

2. ฟืม เครื่องสำหรับทอเสื่อมีลักษณะเป็นท่อนไม้มีรูห่างกันสำหรับสอดเชือกปอปั่นขนาดเล็ก
ฟืมที่ใช้สอดเชือกกางโฮง

3. โฮง โครงไม้เครื่องทอ ทำด้วยแก่นไม้เนื้อแข็งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ในการทอเสื่อกก

โฮงที่ใช้ทอเสื่อกก

4.เอ็นหรือเชือกไนล่อน เชือกที่ใช้ขึงกัยโฮง
เชือกที่ใช้สำหรับกางโฮง


5. ไม้สอด ไม้ที่ทำจากไม้ไผ่มีลักษณะแบนๆ ใช้สอดไปตามช่องว่างระหว่างเชือกไนล่อน


ไม้ใช้สำหรับสอดเส้นกกเข้ากับโฮง










วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

การย้อมสี


  1. ต้มน้ำให้ร้อนและผสมสีลงไป



2. นำสีย้อมกกที่เราอยากใส่เทลงไปในหม้อ






3. นำต้นกกที่เตรียมเอาไว้นำลงหม้อให้สีเข้ากับเนื้อกก




4.กลับด้านให้สีเข้ากัน

5.เอาขึ้นมาแล้วตากให้แห้ง(สามารถนำมาทอได้)












วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558


      

       การทอเสื่อกก  เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสีแล้วสานทอให้เป็นแผ่นผืน  เพื่อนำมาใช้ปูลาดรองนั่งหรือนอน  หรือทำธุรกรรมต่างๆ  ตลอดจนทำพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อเสื่อกก  เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ  ทั้งนี้เพราะต้นกกเป็นพืชธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำต้นกกมาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน หรือได้อิทธิพลทางความคิดจากกันและกัน ทำให้เสื่อกกถูกจัดได้ว่าเป็นปัจจัยจำเป็นอย่างหนึ่ง  ต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในอดีต
               
          กกมี 2 ชนิดคือ

      1. กกพื้นเมืองตามภาษาเรียกว่า "กกเหลี่ยม" หรือ " ผือ" ลักษณะลำต้นเป็นสามเหลี่ยม แข็ง กรอบ และไม่เหนียว เมื่อนำมาทอเป็นผืนเสื่อขัดไม่เป็นเงา อย่างยิ่งใช้ไม่ทนทาน เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยจะนิยมใช้กันมาก
     2. กกพันธุ์ลังกาภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "กกกลม" หรือ "ไหล" ลักษณะของลำต้นกลม ผิวอ่อนนุ่ม เหนียว ไม่กรอบ เมื่อนำมาทอเสื่อแล้วนิ่มนวลน่าใช้ ขัดถูก็เป็นมันน่าดู จึงนิยมใช้กกกลมมาทอเสื่อกันมาก


               
        




วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558




ฟืมใช้สำหรับทอผ้า

    ฟืม เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับทอผ้า มี่ตัวฟืมที่ทำจากไม้ เนื้องแข็ง เป็นกรอบสี่เหลี่ยม มีฟันซี่เล็กๆเรียงกันเป็นตับอยู่กลางและระยะห่างของฟันเป็นที่ใช้สำหรับสอดเส้นไหมผ่าน ความกว้างของฟืมประมาณ 5-6 เซนติเมตร ส่วนความยาวของฟืมคือความกว้างของผืนผ้าในการใช้ฟืมเนื่องจากการทอครั้งต่อไป จะต้องเหลือเส้นไหมที่ทอคร้งก่อนไว้เพื่อนำมาผูกกับเส้นไหมที่ต้องการทอครั้งต่อไปโดยไม่ให้เส้นไหมจากการทอครั้งก่อนหลุดออกจากฟืม ไม่เช่นนั้นจะต้องนำเส้นไหมมาสอดผ่านฟันของใหม่ซึ่งจะต้องใช้เวลานานมาก